 |
| ฉากของภาพยนตร์ "อวตาร" ที่ได้รับแรงบัลดาลใจ มาจากทิวทัศน์อันงดงามของหุบเขาเที่ยนจื่อซาน |
กลับมาพบกับคอลลัมน์ มีทวีพาเที่ยวกันต่อนะคับ วันนี้ก็จะพาท่านไปผจญภัยกันที่
"หุบเขาเทียนจื่อซาน หรือ หุบเขาอวตารกัน" ที่ไม่ได้โพสข้อความหลายวันนี้ก็ไปทำบุญที่วัดแจ้ง
ที่ปราจีนบุรีมาคับ ต้องขออนุโมทนาสาธุกับบอสผม"เฮียสุวิทย์"ด้วยคับที่อนุญาติให้ผมใช้เวลางานไปทำงานบุญคับ
 |
| คณะเราพร้อมลุยกันแต่เช้า |
เขาเทียนจื่อซาน -Tianzi Mountain Nature Reserve
หรือที่คนไทยรู้จักในนาม
"เขาจักรพรรดิ์" เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ฮอลิวูดเรื่องดังอย่าง
AVATAR หุบเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานอู่หลิงหยวน ซึ่งเราใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมมายังอุทยานเพียง
5 นาทีก็ถึงแล้วคับ
 |
| ก่อนเข้าอุทยานก็ต้องใช้บัตรผ่านซึ่งเป็นบัตรแข็ง |
การเดินทางเข้าชมความงามของธรรมชาติในอุทยานแต่ละท่านจะมีบัตรแข็งผ่านประตูท่านละ 1 ใบ ระหว่างเดินผ่านประตูทางเข้าจะมีตู้สแกนลายนิ้วมือและบันทึกลายนิ้วมือของแต่ละคนลงไปในบัตรคับ ดังนั้นบัตรแข็งผ่านประตูใบนี้ใช้แทนกันไม่ได้คับอย่าสลับกันนะคับ เฉพาะบัตรผ่านประตูใบนี้ใบเดียวก็ปาเข้าไป 245 หยวนแล้วคับหรือกว่า 1,300 บาทคับซึ่งบัตรนี้มีอายุ 3 วันคับ...แพงเอาเรื่องเลยทีเดียว
 |
| รถบัสที่ใช้พลังงานไฟฟ้าของอุทยาน |
จากนั้นรถบัสของอุทยานจะนำท่านไปส่งตามจุดไฮไลท์ต่างๆในหุบเขาเทียนจื่อซานบัตรค่าโดยสารก็ 15 หยวนคับ คณะเราใช้เวลาอยู่ในรถบัสประมาณ 15 นาทีก็ไปถึงจุดหมาย นั่นก็คือ สถานีกระเช้าขึ้นเขาคับผม...
 |
| ภาพในรสบัสขณะขับลอดผ่านอุโมงค์ในหุบเขา |
การเข้าเที่ยวชมในหุบเขาเทียนจื่อซานนั้นมี 2 Option ให้ท่านได้เลือก คือ ทางแรกท่านเลือกขึ้นเขาโดยกระเช้าและลงโดยลิฟท์แก้ว หรือจะเลือกทางที่สอง คือ การขึ้นลิฟท์แก้วแล้วลงด้วยกระเช้าอันนี้ก็ดูตามดุลพินิจของไกด์แล้วกันนะคับ ด่านไหนคนเยอะเราก็หนีไปขึ้นอีกฝั่งหนึ่ง วันนี้คนไม่เยอะมากคณะเราจึงเลือกขึ้นเขาโดยนั่งกระเช้าก่อนคับ
 |
| ลงจากรถบัสก็ต้องเดินต่อไปยังสถานนี้กระเช้า |
การนั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขานั้นใช้ระยะเวลาเพียง 8 นาทีเท่านั้นส่วนค่าบัตรโดยสารก็ท่านละ 52 หยวนหรือ 280 บาทเป็นตั๋วขาขึ้นอย่างเดียวนะคับ ถ้าท่านมาเที่ยวเองค่าบัตรเข้าชม 3 ด่านนี้ก็ 245+15+52 = 312 หยวนหรือกว่า 1,700 บาทเข้าไปแล้วเดี๋ยวนี้ท่องเที่ยวเมืองจีนไม่ถูกคับ...คนจีนหรือคนไทยก็ซื้อตั๋วราคาเดียวกันคับ
 |
| กระเช้าของอุทยานหนึ่งตู้จุได้ 8 ท่านคับ |
โดยกระเช้าแต่ละตู้สามารถนั่งได้ 8 ท่าน ระหว่างที่นั่งกระเช้านั้นท่านสามารถมองเห็นวิวโดยรอบหุบเขา บางวันนที่มีหมอกลงกระเช้าก็พาท่านลอดผ่านหมู่เมฆ ท่านสามารถรู้สึกราวกับท่านกำลังเหาะขึ้นบนสวรรค์เลยก็ว่าได้...
 |
| กระเช้าเดินทางผ่านหุบเขาสูงต่างๆ |
ทิวทัศน์ที่ท่านมองลงไปเบื้องล่างจะพบกับแท่งภูเขาหินรูปทรงประหลาดมากมายที่เขียวขจีปกคลุมไปด้วยต้นสนและพืชนานาชนิด
 |
| สวนจอมพลเฮ่อหลง |
ถึงแล้วคับไฮไลท์ที่แรกของคณะเราวันนี้ "สวนธารณะจอมพลเฮ่อหลง" สวนแห่งนี้ได้รับการจัดตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1986 เพื่อเป็นเกียรติแก่นายพลเฮ่อหลงแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเป็นชาวลี่เจียและมีถิ่นกำเนิดอยู่ในบริเวณนี้
 |
| ท่านนายพลกับม้าคู่ใจ |
ภายในสวนเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ท่านจอมพลเฮ่อหลงที่ทำจากทองแดงสูง 6.5 เมตรหนักกว่า 9 ตันตั้งเด่นอยู่กลางลาน
 |
| ภาพหมู่คณะคุณเมษ์ กับวิวของสวนจอมพลเฮ่อหลง |
 |
| ไกด์ไมค์ กำลังอธิบายเีกี่ยวกับรูปหล่อท่านายพล |
 |
| คุณแม่สมลักษณ์กับววหุบเขาสวยๆ |
จากจุดชมวิวบนสวนแห่งนี้ท่านสามารถมองเห็นยอดเขาและหินรูปทรงแปลกปะหลาดมากมายปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกและพฤกษานาๆพันธุ์ มีรูปร่างต่างๆ ตามจินตนาการ เช่น เขาพู่กันจักรพรรดิ เขาสวนสวรรค์ เขานางฟ้าโปรยดอกไม้...
 |
| หีบเพลงท้องถิ่นของที่นี่คับ |
ระหว่างทางมายังสวนท่านจะเห็นพ่อค้าขายหีบเพลงพื้นเมืองมาเป่าเพลงให้นักท่องเที่ยวไดฟังกัน ท่านไหนสนใจก็อุดหนุนได้คับมีสองรุ่นให้เลือก 15 หยวนกับ 20 หยวนเป็นเงินไทยก็แค่ร้อยเดียวเองคับ
 |
| คุณเมษ์บอกคุณพ่อ อันนี้หนูช๊อปชอบ... |
 |
| คณะเราหยุดแวะชมแล้วก็ช่วยอุดหนุนไปตามระเบียบ |
วัยรุ่นคณะเราแวะชมหีบเพลงไปพ่อค้าก็เป่าเพลง "เถียน มี มี่" ขับกล่อมเป็นที่ถูกอกถูกใจเลยอุดหนุนพ่อค้าไป 3 ชิ้นคับ...
 |
| คุณเมษ์ กับวิวทางเดินในสวน |
หลังจากที่เที่ยวชมสวนจอมพลเฮ่อหลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วคณะเราก็นั่งรถไปเที่ยวยังไฮไลท์จุดที่สอง นั่นก็คือ "บริเวณหุบเขาที่เป็นฉากถ่ายทำหนังเรื่องอวตารคับ"
 |
| ท่านที่เดินไม่ไหวจะนั่งเกี้ยวไปส่งถึงทางออกก็ 200 หยวนคับ |
การเที่ยวชมในจุดนี้นั้นต้องเดิน เดินและเดิน เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคับ ทางเดินที่คณะเราจะไปผจญภัยนั้นเป็นทางเดินที่ลัดเลาะตามหน้าผามีทางเดินขึ้นบ้างลงบ้างจากจุดนี้ไปยังทางออกอีกทางหนึ่งเท่าที่ผมจับเวลาก็ประมาณ 1 ชั่วโมงเห็นจะได้คับ ถ้าท่านที่ชอบถ่ายภาพก็ต้องมีชั่วโมงครึ่งครับ
 |
| ก่อนเดินทางไกลอาหารว่างสไตล์คนจีนก็มีนะคับ |
 |
| ถึงแล้วคับสะพานใต้ฟ้าอันดับ 1 คับผม |
"สะพานเทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว หรือ สะพานใต้ฟ้าอันดับหนึ่ง"
เป็นสะพานหินที่เชื่อมภูเขาสองฝั่งเข้าหากันโดยธรรมชาติ จุดนี้เองเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์จีนหลายเรื่อง ที่ราวบันไดบริเวณสะพานจะมีกุญแจมาล๊อคอยู่เต็มไปหมดซึ่งเป็นความเชื่อของคนหนุ่มคนสาวที่ว่าหากคู่ไหนเอากุญแจคล้องไว้ที่นี่ก็จะรักกันชั่วนิรันต์ไม่พรากจากกัน
การเดินเที่ยว ณ จุดนี้ก็ไม่ต้องกลัวหลงคับ เดินไปตามทางเรื่อยๆไม่ต้องกลัวหลงคับเป็นทางบังคับเลี้ยวซ้ยอย่างเดียว จะถ่ายภาพก็มีทางลงขวามือถ่ายภาพเสร็จก็เดินขึ้นมาทางเดิมคับ
เดินชมวิวมาถึงครึ่งทางท่านก็จะพบสะพานเชื่อมใจ สะพานนี้เป็นสะพานเหล็กที่เชื่อมไปยังเขาลูกตรงข้าม สะพานนี้เป็นสะพานแคบๆทางเดินเป็นเหล็กซี่ๆสามารถมองลงไปเห็นยังพื้นด้านล่าง...รับรองว่าท่านไหนกลัวความสูงเดินผ่านสะพานนี้มีขนลุกครับ
จุดชมทิวทัศน์ที่สำคัญบริเวณนี้ คือ ป่าทะเลหินตะวันตก หรือ West Sea Stone Forests จุดนี้ท่านจะได้พบกับเหล่าขุนเขามากมายที่มีรูปร่างหลากหลายเหมือนท่อนไม้ซึ่งในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูใบไม้ผลิหลังจากที่ฝนตกท่านจะได้พบกับหมอกเป็นคลื่นปกคลุมทั่วหุบเขาภาพที่เห็นสุดแสนจะงดงาม
นอกจากวิวภูเขาที่งดงามแล้วทางเจ็กธนินวัฒน์ ก็ได้เก็บภาพดอกไม้สวยๆระหว่างทางมาให้เราชมกันคับ ช่วงที่คณะเรามาเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิพอดีเลยได้เห็นดอกไม้โดยรอบกำลังแข่งกันเบ่งบานให้คณะเราได้เชยชมกัน
 |
| รูปคู่น้าตุ๋ยกับวิวของสะพาน |
 |
| วิวสวยๆระหว่างทางเดินในหุบเขา |
 |
| ทางเดินมีขึ้นบันไดให้ออกแรงกันบ้างเล็กน้อย |
การเดินเที่ยว ณ จุดนี้ก็ไม่ต้องกลัวหลงคับ เดินไปตามทางเรื่อยๆไม่ต้องกลัวหลงคับเป็นทางบังคับเลี้ยวซ้ยอย่างเดียว จะถ่ายภาพก็มีทางลงขวามือถ่ายภาพเสร็จก็เดินขึ้นมาทางเดิมคับ
 |
| วิวสวยๆของภุเขารูปทรงแปลกตา |
 |
| อันนี้สะพานเชื่อมใจคับ เชื่อมหุบบเขาสองลูกเข้าหากัน |
เดินชมวิวมาถึงครึ่งทางท่านก็จะพบสะพานเชื่อมใจ สะพานนี้เป็นสะพานเหล็กที่เชื่อมไปยังเขาลูกตรงข้าม สะพานนี้เป็นสะพานแคบๆทางเดินเป็นเหล็กซี่ๆสามารถมองลงไปเห็นยังพื้นด้านล่าง...รับรองว่าท่านไหนกลัวความสูงเดินผ่านสะพานนี้มีขนลุกครับ
 |
| ท่านที่กลัวความสูงอย่ามองลงไปคับ |
 |
| คณะเราเดินไปก็ถ่ายกันไป ชิวๆคับ |
 |
| วิวภูเขาสวยๆแบบนี้ต้องที่นี่ที่เดียว |
จุดชมทิวทัศน์ที่สำคัญบริเวณนี้ คือ ป่าทะเลหินตะวันตก หรือ West Sea Stone Forests จุดนี้ท่านจะได้พบกับเหล่าขุนเขามากมายที่มีรูปร่างหลากหลายเหมือนท่อนไม้ซึ่งในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูใบไม้ผลิหลังจากที่ฝนตกท่านจะได้พบกับหมอกเป็นคลื่นปกคลุมทั่วหุบเขาภาพที่เห็นสุดแสนจะงดงาม
 |
| เขาสูงกับสนเขียว |
 |
| เจ็กธนินวัฒน์ช่างภาพมืออาชีพประจำคณะเราคับ |
นอกจากวิวภูเขาที่งดงามแล้วทางเจ็กธนินวัฒน์ ก็ได้เก็บภาพดอกไม้สวยๆระหว่างทางมาให้เราชมกันคับ ช่วงที่คณะเรามาเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิพอดีเลยได้เห็นดอกไม้โดยรอบกำลังแข่งกันเบ่งบานให้คณะเราได้เชยชมกัน
 |
| "ดอกซากุระ" เมืองจีนพึ่งเริ่มเบ่งบาน |
 |
| ส่วนนี่ก็ดอก "อลูมู่ไล๊" คับ |
หลังจากชมวิวบนเขากันอย่างจุใจแล้วคณะเราก็ได้เวลาลงจากเขาซึ่งคณะเราจะลงจากเขาโดยการลงลิฟท์แก้ว"ไป่หลง" ซึ่งใช้เวลาลงไม่ถึง 2 นาทีแต่ต้องใช้เวลารอคิวที่จะลงลิฟท์นานกว่า 30 นาทีคับ...
 |
| เสร็จจากเดินรอบเขาก็ได้เวลาไปลงลิฟท์กันแก้วคับ |
 |
| วิวที่มองออกไปจากลิฟท์แก้ว |
ลิฟท์แก้วไป่หลงเทียนที เป็นลิฟท์ที่สร้างอยู่ข้างหน้าผาของภูเขาหยวนเจียเจี้ย
ในอดีตลิฟท์ดังกล่าวเคยได้รับการบันทึกว่าเป็นลิฟท์กลางแจ้งที่สูงที่สุดที่สุดในโลก ใช้เวลาขึ้นจากพื้นดินไปสู่ยอดเขาที่ระดับความสูง
330
เมตรใน 2 นาที
 |
| อีกเช่นเคย ท่านที่กลัวความสูงก็เข้าทีหลังคับจะได้ไม่เห็นวิว |
 |
| อึดใจเดียวก็ลงมาถึงพื้นด้านล่างแล้วคับ |
 |
| ถ่ายภาพที่ระลึกบริเวณสถานีขึ้นลิฟท์ก่อนเดินทาง ออกจากอุทยานคับ |
ก่อนกลับคณะเราก็ได้ถ่ายภาพวิวภูเขาปิดท้ายบริเวณสถานีขึ้นลิฟท์ ณ จุดนี้ถือเป็นไฮไลท์อีกจุดหนึ่งของนักถ่ายภาพ
 |
| ดูกันชัดๆคับ ลิฟท์แก้วที่สูงที่สุดในเอเชีย |
 |
| น้าตุ๋ยเดินเขาเสร็จแล้วยังไม่เหนื่อย...วัยรุ่นอยู่แค่นี้ชิวๆค่ะ |
เป็นยังไงกันบ้างคับวิวสวยๆของที่นี่มาแล้วต้องเดินอย่างเดียวคับ แต่เดินไปหยุดถ่ายภาพไปรับรองชิวๆหายเหนื่อยคับ
ผมมีโปรแกรมทัวร์จางเจียเจี้ย ราคาถูกมาฝากคับ
ท่านสามารถ Click ที่ภาพเพื่อ Link ดูรายละเอียดโปรแกรมทัวร์คุณภาพราคาพิเศษ ของบริษัท มีทวี ทัวร์...สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-736-1599 , Hotline 095-398-4141 ได้เลยคับผม
(กรุณา Click ที่ภาพเพื่อเข้าสู่ Social Madia ของพวกเรา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น