 |
| บรรยากาศระหว่างทางที่จะเข้าไปยังเมืองเบอร์จิ้น |
หลังจากที่คณะเราได้เสร็จการเที่ยวชมเมืองผีอูเหอเอ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คณะเราเดินทางต่อไปทางทิศเหนือซึ่งจุดหมายของเราก็คือเมืองเบอร์จิ้น โดยเป็นเมืองที่คณะของเราแวะค้างแรมกันหนึ่งคืนก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่ไปสู่อุทยานคานาสือหนึ่งในสถานที่ไฮไลท์ของทริปนี้
 |
| การเดินทางมุ่งหน้าสู่ทางเหนือกว่า 5 ชั่วโมงของคณะเรา |
 |
| บรรทุกอย่างนี้เจอตำรวจบ้านเรา..รับรองงานเข้า อันนี้ก็เป็น Unseen in Xinjiang คับ |
 |
| ระหว่างทางมีกังหันลมผลิตไฟฟ้าตลอดทางและมีฝนตกปรอยๆ ซึ่งนานๆทีจะมีฝนตกที่นี่ ซึ่งตกเดี๋ยวเดียวก็หยุด |
เมืองเบอร์จิ้นเป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือของซินเจียง อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของแนวเทือกเขาอัลไต โดยมีชายแดนกับรัสเซีย คาซัคสถานและมองโกเลีย ซึ่งเป็นเมืองทางผ่านที่คณะเราแวะพักก่อนมุ่งสู่อุทยานคานาสือ ไฮไลท์ของทริปซินเจียง-อูหลู่มู่ฉี
 |
| ป้ายบอกทางมีกำกับสองภาษาทั้งจีนและอุยกูร์ |
คณะเราเดินจากเมืองผีอูเหอเอ่อร์ได้ประมาณ 2.30 ชั่วโมง เหล่าสว.หลังรถบัสก็ตะโกนเรียกผม "ซันนี่อีกนานไหมจะถึงเฮียจะไปยังกระต่าย" ผมด้วยความที่เป็นคนซื่อๆก็ตอบไปไม่ต้องไปยิงให้บาปกรรมคับที่ที่เขายิงถลกหนังมาให้เรียบร้อยแล้วคับเมื่อกี้ผ่านมาตั้งหลายร้านทำไมไม่บอกผมจะได้แวะจอดรถให้ลงไปซื้อให้คับ!!!
 |
| อันนี้ก็เป็นหนังสัตว์ของฝากระหว่างทางของที่นี่ มีทั้งจิ้งจอก กระต่าย หมี ให้เลือกซื้อ |
หลังจากที่ตอบเฮียไปภาษาคนซื่อๆ ก็ถึงทราบจุดประสงค์ของเฮียเขาว่าต้องการที่จะเข้าห้องน้ำ (แหมบอกว่าปวดฉี่ทนไม่ไหวผมก็ให้นายหวานเย็นจอดข้างให้เฮียแล้วค้าบ!!) ซึ่งเมื่อสอบถามนายหวานเย็นก็ได้รับคำตอบว่ารอเดี๋ยวไม่เกิน 10 นาทีเดี๋ยวจัดให้ห้องน้ำอย่างหรูเลย....
 |
| บรรยากาศจุดพักรถระหว่างเมืองเพื่อแวะเข้าห้องน้ำและที่ขาด ไม่ได้สำหรับคนไทยคือ การได้ช๊อปปิ้งนั่นเอง "อาเจ้หลังรถบอกว่าแลลกเงินมายังไม่ได้ช๊อปสักบาทเลย" |
 |
| จุดพักรถที่นี่ลงทุนดีไซน์เป็นบรรยากาศยุโรปเชียว |
ที่เมืองจีนนั้นก็คงคล้ายๆกับบ้านเราตรงจุดพักรถมีห้องน้ำให้เข้าก็จะมีตลาดให้ช๊อปปิ้งอยู่คู่กัน ถือว่าเป็นการส่งเสริมให้ชาวบ้านในย่านนั้นให้มีช่องทางหารายได้และมีงานทำกัน...
 |
| บรรยากาศของตลาดด้านนอก โครงสร้างก็ออกสไตล์แขกนิดๆ |
 |
| ผลไม้พื้นเมืองสดๆของที่นี่ ราคาไม่แพง |
 |
| มองอารายย...ป้าขายแต่ผลไม้ไม่มีโรตีสายไหมจ๊ะ!!! |
 |
| ส่วนมุมนี้ก็ผ้าพันคอที่เป็นไหม หมวกแฮนด์เมท |
 |
| มาเส้นทางสายไหมก็ต้องช๊อป..ผ้าไหมคับ |
หากท่านที่ติดตามคอลัมน์นี้อยู่อยากมาเมืองจีนแต่พูดภาษาจีนไม่ได้ละก็ทำตามเทคนิคนี้คับ รับรองไม่ต้องไปเรียนภาษาจีนให้ปวดหัว!!!
 |
| มีให้เลือกหลากหลายแบบราคาต่อรองได้ |
ท่องแค่คำนี้คำเดียวคับ 3 พยางค์ ราคาเท่าไหร่ (ตัวเส่าเฉี๋ยน) บอกเขาไปตามนี้แล้วชี้สิ่งที่ท่านอยากจะซื้อคับ ถ้าเขาตอบมาฟังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรคับ แค่ใช้โทรศัพท์มือถือหรือเครื่องคิดเลขที่ติดมาให้เขากดราคาให้เราคับ แม่ค้ากดมา 10 หยวน เราก็ต่อไป 3 หยวนไม่ต้องกลัวคับ
หลังจากต่องลองแล้วราคาซื้อได้ก็จะอยู่ประมาณ 7 - 3 หยวนนั่นแหละคับต่อราคาได้ไม่ต้องอายคับ ถ้าของที่เราอยากได้แต่ราคาสุดท้ายยังแพงไปก็ใช้มุกนี้คับง่ายๆแค่โบกมือบ้ายบายแล้วเดินออก แม่ค้าก็จะกวักมือเรียกมาเจรจากันอีกรอและราคาที่ท่านอยากซื้อบางที่เขาก็หยวนคับ ถ้าไม่ได้จิงๆก็เพิ่มให้เขาอีกหน่อยเถอะคับ... "เมืองจีนใช้เงินสกุลหยวน ท่านก็หยวนแม่ค้าหน่อยแล้วกัน"
 |
| "หยกขาว" เป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อของที่ซินเจียงคับ |
เกี่ยวกับเรื่องการซื้อหยกลูกค้ามักจะถามผมว่า "ซันนี่หยกอันนี้หยกแท้ไหม?" ผมก็จะสารภาพตามตรงคับ "ระหว่างหยกกับหินผมแยกไม่ค่อยออกค้าบ" บางตำราว่าหยกแท้ต้องเย็น เนื่องด้วยที่นี่อากาศเย็นประมาณ 10 กว่าองศาทั้งหยกและหินมันก็เย็นหมดละคับ ผมมาเที่ยวจีนบ่อยก็ยังแยกไม่ออกสักทีได้แต่บอกลูกค้าว่าของอย่างนี้ ตาดีได้ ตาร้ายเสียคับ... ถ้าหากราคาไม่แพงแล้วพี่ถูกใจก็ซื้อเถอะคับ
 |
| หนังจิ้งจอกห้อยเต็มอยู่บนราว |
 |
| ส่วนภาพนี้ก็เสื้อขนสัตว์ |
 |
| อันนี้ก็หมวกสไตล์ซินเจียง ดีไซน์ออกไปทางแขกๆ |
 |
| หมวกขนสัตว์อันนี้ก็กิ๊บเก๋ |
- ร่ม - กางเอาไว้บังจัวเองหากห้องน้ำไม่มีประตู
- ตะเกียบ - เอาไว้เสียบที่ประตูกรณีที่กลอนประตูเสีย
- ทิชชู่ - อันนี้ต้องจัดเต็มเป็นพิเศษเนื่องจากห้องน้ำตามที่สาธารณะที่จีนส่วน ใหญ่ไม่มีทิชชู่และเหม็นมากๆ อันนี้ไม่ต้องบรรยายคงเห็นภาพเหมือนกับผม โดยสรรพคุณของทิชชู่เวลามาจีนมี 2 อย่างคับ อย่างแรกเอาไว้อุดจมูกคับเหมือนติดเครื่องฟอกอากาศ อย่างที่สองก็ไว้ทำธุรกิจส่วนตัว.....
 |
| ภายในห้องน้ำที่นายหวานเย็นคุยนักคุยหนา |
อยากรู้ว่าจะหรูแค่ไหน...ดูข้างนอกแล้วก็ไม่เท่าไหร่ยังไงต้องเข้าไปพิสูจน์กัน ทันทีที่คณะเราเข้ามาในห้องนำ้ก็ทำให้เราตะลึงตึงๆกันเป็นแถว นี่มันห้องน้ำระดับโรงแรม 5 ดาวเลยนะเนี่ย (โรงแรม 5 ดาวที่บ้านเราบางที่ยังไม่มีทีวีให้ดูเลย) ห้องน้ำแบบนี้ก็คุ้มค่ากับการรอคอยกว่า 2 ชั่วโมงคับ อันนี้ต้องยอกความดีความชอบให้นายหวานเย็นคนขับของเราคับ
 |
| ด้านในอ่างล้างหน้ามีทีวีจอแบนให้ดู |
 |
| ถ้ายังไม่หรูมีโคมไฟติดให้ด้วย..เอาเข้าไป ส่วนชักโครกก็ยี่ห้อ ดังที่เกาหลีคับ "ยอง ยอง ฮึด" มีระบบเซนเซอร์เหมือนกัน |
 |
| อันนี้ก็โถฉี่ของสุภาพบุรุษ ไม่ต้องกดน้ำคับใช้ระบบเซนเซอร์ |
เอาเป็นว่าหลังจากคณะเราออกมาจากห้องน้ำเสร็จก็ไปซื้อเข็มขัดใหม่กันเป็นแถวเลยคับ...อย่าพึ่งงงคับ เจอห้องน้ำที่นี่เข้าที่นี่เข้าไปแล้ว "คาดไม่ถึงคับ" นอกเรื่องอีกแล้ววว!!! อ้าวขึ้นรถต่อคับเข้าสู่เนื้อหาการเดินทางต่อ
 |
| ถนนหนทางที่จะไปเมืองเบอร์จิ้น |
ถนนที่มุ่งหน้าไปสู่เมืองเบอร์จิ้นระหว่างทางนั้นเป็นทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ที่มีทิวทัศน์สวยๆให้เราได้ชมกันเพลินๆระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์และทุ่งหญ้าตามธรรมชาติที่เขียวขจี กระโจมที่พักของคนเลี้ยงแกะ และกังหันลมผลิตไฟฟ้าที่ให้เห็นมีอยู่ทั่วไป
 |
| ทุ่งลาเวนเดอร์สวยๆตามธรรมชาติ |
 |
| อันนี้ผมก็ซื้อน้ำมัน Aroma กลิ่น Lavender ของที่นี่มาใช้ เหมือนกันคับ กลิ่นหอมไม่แพ้ Lavender ที่ฮอกไกโดเลยทีเดียว |
 |
| กระโจมของชาวบ้านที่เลี้ยงแกะ |
 |
| นี่ก็ฝูงแกะที่กำลังกินหญ้าอยู่ตามภูเขาข้างทาง |
ระหว่างทางที่แล่นรถผ่านก็จะเห็นฝูงแกะมากมายหากินอยู่บนภูเขา ซึ่งแกะที่นี่จะแตกต่างกับแกะสายพันธุ์ทั่วไปในจีน นั่นก็คือส่วนของสโพกที่ใหญ่ จึงเป็นที่มาของชื่อพันธุ์ "เหม๋ย หนู่ หยัง" แปลเป็นไทยว่า "แกะสาวงาม" มาที่นี่ก็มาลองกินแกะย่างนะครับเนื้อนุ่มมากๆและไม่ค่อยมีกลิ่นสาปคับ
 |
| ดูกันชัดๆคับ แกะที่นี่สะโพกใหญ่มากๆ |
หลังจากที่เดินทางต่ออีก 2 ชั่วโมงผ่านทุ่งดอกลาเวนเดอร์และทุ่งหญ้าที่เขียวขจี ในที่สุดเราก็มาถึงโรงแรมที่พักของเราที่เมืองเบอร์จิ้นแล้วคับ โรงแรม Jiadeng yu castle โรงแรมระดับ 4 ดาวของที่นี่ครับ ซึ่งโรงแรมที่คณะเราพักก็อยู่ในหุบเขาที่ล้อมรอบไปด้วยทุ่งหญ้าและฝั่งตรงข้ามก็เป็นฟาร์มเลี้ยงแกะอีกด้วย
 |
| สร้างเป็นปราสาทสมชื่อโรงแรมเลย คณะเราพักตึกนี้คับ |
 |
| ห้องพักอีกโซนของโรงแรม |
 |
| วิวตรงข้ามโรงแรม เห็นกระโจมกับฝูงแกะ |
 |
| อันนี้ก็บริเวณล๊อบบี้โรงแรม |
 |
| ห้องอาหารที่คณะเราจะฝากท้องมื้อเย็นวันนี้ |
 |
| อันนี้ก็เป็นสภาพห้องพักของโรงแรมคับ |
วันนี้คระเราก็มาแวะชาร์ตแบตกันหนึ่งคืนที่นี่ รุ่งเช้าก็จะเดินทางต่อไปยังอุทยานคานาสือหนึ่งในไฮไลท์ของซินเจียง ยังไงก็ติดตามชมต่อในตอนที่ 4 : อุทยานคานาสือ รับรองเห็นแล้วจะทำให้หลายๆคนอยากแพ็คกระเป๋ามาเที่ยวซินเจียงเหมือนคณะผมเลยทีเดียว
