สคู๊ปมีทวี พาเที่ยว ในตอนนี้จะพาท่านมาสัมผัสลมหนาวและทิวทัศน์ของธรรมชาติที่งดงามของเส้นทางธรรมชาติอัลไพน์
(Tateyama Kurobe Alpine) หรือที่นักท่องเที่ยวชาวไทยรู้จักกันในนามเจแปนแอลป์ นั่นเองคับ
ที่ตั้งของเจแปนแอลป์ |
Japan Alps อยู่ที่ไหน??
เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น หรือ เทือกเขาทาเทยาม่า
เป็นเทือกเขาใหญ่ที่คลอบคลุมอาณาเขตจังหวัดโทยาม่ากับจังหวัดนากาโน่
ซึ่งอยู่ตอนกลางของเกาะฮอนชู
ประเทศญี่ปุ่น
Top 8 สิ่งที่สุดของญี่ปุ่น |
ทำไมใครๆถึงอยากมาเที่ยว Japan Alps??
นอกเหนือจากทัศนียภาพที่งดงามของธรรมชาติอันลือชื่อแล้ว ที่เทือกเขาทาเทยาม่ายังมี 8 สิ่งที่จัดเป็นอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น
ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกโชเมียวที่สูงที่สุด , กระเช้าที่ยาวที่สุด
, เขื่อนพลังงานน้ำที่ใหญ่ที่สุด, สถานนีรถไฟที่สูงที่สุด
เป็นต้น
เส้นทางการเดินทาง |
เส้นทางเที่ยวชม Japan Alps ซับซ้อนไหม??
เส้นทางท่องเที่ยว Japan Alps เป็นเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างก็ต้องการมาเยือนสักครั้ง
โดยการเดินทางเที่ยวชมที่นี่ท่านจะได้เพลิดเพลินกับการเดินทางด้วยยานพาหนะหลายชนิด
ไม่ว่าจะเป็น กระเช้าลอยฟ้า รถราง และรถบัส เป็นต้น โดยลายละเอียดตลอดทริปการเดินทางโดยละเอียดทีมงานมีทวี พาเที่ยว ได้รวบรวมมาให้กับท่านได้เตรียมตัวกันก่อนเดินทางคับ
การเดินทางของเส้นทางนี้เริ่มต้นจากพื้นราบขึ้นไปยังภูเขาสูง ณ สถานี Murodo สูงประมาณ 2,450 เมตรซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ชมวิวกำแพงหิมะที่ใหญ่ คณะเราต้องต้องโดยสาร Cable Car ที่สถานี Tateyama ไต่ระดับขึ้นเขาระยะทาง 1.3 กิโลเมตรซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาทีด้วยกัน
บริเวณหน้าอุทยาน |
Step 1 : ขึ้น Cable Car สู่สถานี
Highland Bus (7 นาที)
สถานี Tateyama Cable Car |
การเดินทางของเส้นทางนี้เริ่มต้นจากพื้นราบขึ้นไปยังภูเขาสูง ณ สถานี Murodo สูงประมาณ 2,450 เมตรซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ชมวิวกำแพงหิมะที่ใหญ่ คณะเราต้องต้องโดยสาร Cable Car ที่สถานี Tateyama ไต่ระดับขึ้นเขาระยะทาง 1.3 กิโลเมตรซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาทีด้วยกัน
คณะรอเข้าคิวขึ้นรถราง |
บรรยากาศที่ชานชลา |
เนื่องด้วยช่วงปลายเดือนเมษายนที่คณะเราไปเที่ยวนั้นถือเป็นช่วงเริ่ม High-Season ของที่นี่ซึ่งแม้ว่ากว่าคณะเราจะเดินทางถึงสถานีต้องแต่ 8 โมงเช้ากว่าจะได้คิวขึ้น Cable Car ก็ต้องรอกว่า 30 นาทีถึงจะได้เริ่มเดินทางกัน
รถรางมาแล้วจ้า |
ขบวนเดียวจุได้เกือบร้อยคน |
บรรยากาศระหว่างทาง |
หลังจากที่เดินทางมาสู่ด้านบนสถานี Tateyama Cable Car เป็นที่เรียบร้อยแล้วคณะเราก็ต้องเดินทางไปสู่บนยอดเขาโดยการเดินทางในช่วงนี้ต้องเปลี่ยนมานั่งรถ
Shuttle Bus กันคับ
ขึ้นมาสู่สถานีรถ Shuttle Bus |
Step 2 : ขึ้น Tateyama Highland Bus สู่สถานี Murodo (50 นาที)
ยืนรอคิวอีกเช่นเคย |
จากจุดนี้คณะเราก็มารอคิวขึ้นรถ Shuttle Bus ที่จะพาคณะเราไปสู่สถานี
Murodo ที่มีความสูง 2,450 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยระหว่างทางคณะเราก็ได้เพลิดเพลินกับวิวป่าสนป่าดึกดำบรรพ์ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี และแนวกำแพงหิมะตลอด สองข้างทาง
ร้านละลายเงินเยนในสถานี |
รายงานอุณหภูมิบนยอดเขา |
ความสูงจสดระดับน้ำทะเลที่สถานี Shuttle Bus |
คณะขึ้น Shuttle Bus เดินทางสู่ยอดเขา |
บรรยากาศบริเวณสถานี |
กำแพงหิมะ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “ยูกิ โนะ โอะทะนิ” (Yuki no Otani) นั้นจะเปิดให้นักท่องเที่ยวจะเข้าชมความงดงามได้เฉพาะในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี
ชมทิวทัศน์ป่าสน 2 ข้างทาง |
กำแพงหิมะราบล้อม 2 ข้างทาง |
กำแพงหิมะบริเวณยอดเขา |
ถึงสถานีบนยอดเขาแล้วจ้า |
หลังจากที่เพลิดเพลินทิวทัศน์อันงดงามจนเผลอหลับกันไปสักพักทั้งลูกค้าและทีมงาน คณะเราก็เดินทางมาสู่สถานี Murodo ซึ่งสถานีที่ชมความงามของเทือกเขาเททายาม่าแบบใกล้ชิดและเป็นจุดทานอาหารเที่ยงเติมพลังสำหรับคณะเรากันคับ
บรรยากาศในสถานีบนยอดเขา |
เดินทางขึ้นชั้น 2 เพื่อเติมพลังที่ภัตตคาร |
สถานี Murodo ถือเป็นสถานีไฮไลท์ชมความงามของเทือกเขาเททายาม่าและเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร
จึงทำให้สถานีนี้พลุกพร่านไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
ภัตตคารที่คณะเราฝากท้องมื้อเที่ยง |
อาหารมื้อเที่ยงของคณะเรา |
คณะเรามาถึงสถานีเกือบเที่ยงจึงต้องพักทานข้าวเติมพลังกันก่อน ซึ่งอาหารมื้อเที่ยงของคณะเราเป็นเมนูอาหารชุดเบนโต๊ะเสริฟพร้อมกับน้ำซุปร้อนทานแล้วรื่นคอเมื่อทานอิ่มกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วคณะเราก็พร้อมไปลุยกับหิมะกันแล้วคับ
ชุดเบนโต๊ะเสริฟพร้อมน้ำซุปร้อนๆ |
บรรยากาศภายนอกสถานี |
สัมผัสอากาศหนาวและวิวสวยของหิมะ |
บรรยากาศทิวทัศน์สวยๆของเทือกเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาว ณ สถานี Murodo ที่มีความสูง 2,450 เมตรจากระดับน้ำทะเล
รูปหมู่ของลูกค้าร้านเจริญชัยการเกษตร |
สามสาวถ่ายวิวภูเขาหิมะ |
คุณอ้อมและอาเฮียกับวิวกำแพงหิมะ |
หลังจากที่ถ่ายภาพวิวเทือกเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วคระเราก็เดินทางผ่านกำแพงหิมะสูงและเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในหุบเขาแห่งนี้กันต่อคับ
เข้าชมต่อในพิพิธภัณฑ์ |
ภายในแบ่งออกเป็นโซนจัดแสดง 3 ชั้น |
เจ้านกที่เป็นพระเอกของที่นี่ |
ห้องชมวิดีทัศน์ |
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แบ่งออกด้วยกันเป็น 3 ชั้น โดยชั้นล่างจะมีห้องชมวีดีทัศน์บอกเล่าเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในหุบเขาแห่งนี้
นกท้องถิ่นที่อาศัยอยู่บนยอดเขา |
โซนจัดแสดงชั้น 2 |
โซนจัดแสดงชั้น 2 จะเป็นโซนที่บอกเล่าถึงนักปีนเขาที่สามาถพิชิตยอดเขาแห่งนี้และสัตว์ชนิดต่างๆที่อาศัยอยู่บริเวณหุบเขาแห่งนี้
นกท้องถิ่นที่พบได้ในบริเวณนี้ |
สัตว์ชนิดอื่นๆที่อาศัยอยู่บนยอดเขา |
โซนจัดแสดงชั้น 3 จะเป็นโซนจัดแสดงพันธุ์พืชและดอกไม้ท้องถิ่นของที่นี่
พันธุ์พืชและดอกไม้ที่เบ่งบานช่วงฤดูใบไม้ผลิ |
Step 3 : ขึ้นรถ Shuttle Bus ลอดอุโมงค์สู่สถานีกระเช้า Daikanbo (10 นาที)
นั่งรถ Shuttle Bus ไฟฟ้าลอดอุโมงค์ |
ได้เวลาอันสมควรคณะเราก็เดินทางกันต่อโดยจากจุดนี้คณะเราต้องนั่งรถ Shuttle Bus ไฟฟ้าเดินทางลอดอุโมงค์ที่เจาะผ่านหุบเขาระยะทางกว่า
3.7 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีคับ
บรรยากาศภายในรถบัส |
อุโมงค์เจาะทะลุหุบเขา |
มาถึงสถานีกระเช้า |
Step 4 : ขึ้นกระเช้า Daikanbo สู่สถานีรถราง Kurobediara ( 7 นาที)
สถานีกระเช้า ไดคันโบ๊ะ |
โปรแกรมต่อไปหลังจากที่ลง Shuttle Bus แล้วคณะเราก็ต้องรอคิวกันบนสถานีประมาณ
15 นาทีจนได้คิวนั่งกระเช้าไฟฟ้าแบบไม่มีเสาพยุงระหว่างทางที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น
(ระยะทาง 1.7 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทาง
7 นาที)
กระเช้ามาแล้วจ้า |
คณะเราเตรียมตัวเข้ากระเช้า |
ระหว่างทางที่นั่งกระเช้าคณะเราก็เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาว
โดยหุบเขาเบื้องล่างกระเช้านั้นยังหุบเขาที่เป็นจุดเล่นสกีนักสกีมาประลองฝีมือกันสไลด์ลงจากภูเขากัน
ทิวทัศน์ด้านนอกกระเช้า |
มาต่อที่สถานี Cable Car |
Step 5 : ขึ้น Korube Cable Car สู่เขื่อน Kurobe (5 นาที)
จากจุดนี้คณะเราก็นั่ง Cable Car จากสถานีจากระดับความสูง 1,828 เมตรลงสู่บริเวณปากเขื่อน Korube ที่มีความสูง 1,455 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล การเดินทางในช่วงนี้มีระยะทาง 800 เมตรใช้เวลานั่ง Cable Car 5 นาทีด้วยกัน
คณะของเราได้คิวบ่าย 3 โมง 40 |
จากจุดนี้คณะเราก็นั่ง Cable Car จากสถานีจากระดับความสูง 1,828 เมตรลงสู่บริเวณปากเขื่อน Korube ที่มีความสูง 1,455 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล การเดินทางในช่วงนี้มีระยะทาง 800 เมตรใช้เวลานั่ง Cable Car 5 นาทีด้วยกัน
รถรางมาแล้วจ้า |
บรรยากาศภายในตู้รถราง |
ออกจากสถานีรถรางมาต่อกันที่เขื่อน |
Step 6 : เขื่อน Kurobe เดินสู่สถานี Kanden Tunnel Bus (15 นาที)
หลังจากที่เดินพ้นจากอุโมงค์ Cable Car คณะเราก็พบกับเขื่อนโครุเบะ สัมผัสความอลังการของเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เขื่อนประวัติศาสตร์ที่ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างกว่า 7 ปีด้วยแรงงานกว่า 10 ล้านคน
มนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งของการมาเยือนเขื่อนโครุเบะคือภาพการปล่อยมวลน้ำลงจากเขื่อนที่มีความสูง 186 เมตรซึ่งมีละอองน้ำกระเซ็นพุ่งขึ้นมา
เดินชมบรรยากาศรอบเขื่อน |
หลังจากที่เดินพ้นจากอุโมงค์ Cable Car คณะเราก็พบกับเขื่อนโครุเบะ สัมผัสความอลังการของเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เขื่อนประวัติศาสตร์ที่ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างกว่า 7 ปีด้วยแรงงานกว่า 10 ล้านคน
เขื่อนพลังงานน้ำที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น |
มนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งของการมาเยือนเขื่อนโครุเบะคือภาพการปล่อยมวลน้ำลงจากเขื่อนที่มีความสูง 186 เมตรซึ่งมีละอองน้ำกระเซ็นพุ่งขึ้นมา
น้ำในเขื่อนยังเป็นน้ำแข็งอยู่ |
เจ้จูและคณะถ่ายรูป ณ เขื่อนคุโรเบะ |
ทิวทัศน์บริเวณปลายเขื่อน |
เติมพลังด้วยไอครีม Soft Cream กันก่อน |
หลังจากที่เดินชมความอลังกาลของเขื่อนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วคณะเราก็แวะพักชิมไอศครีม
Soft Cream เอาแรงกันสักพัก แนะนำไอศกรีมรสแอ๊ปเปิ้ลคับรับรองไม่ผิดหวัง
จากนั้นก็เดินทางเข้าอุโมงค์ต่อเพื่อไปนั่งรถ Shuttle
Bus ต่อคับ
เดินเข้าในอุโมงเพื่อไปยังสถานีรถ Shuttle Bus |
สองข้างทางของอุโมงค์เล่าเรื่องราวประวัติการสร้างเขื่อน |
Step 7 : สถานี Kanden Tunnel Bus สู่สถานี Ogizawa (16 นาที)
ต่อคิวรอขึ้นรถ Shuttle Bus |
ขึ้น Shuttle Bus ตอน 4 ครึ่ง |
และก็มาถึง Step สุดท้ายของการเดินทางคือการนั่งรถ
Shuttle Bus ไฟฟ้าลอดอุโมงค์ที่จุดเจาะผ่านภูเขา Akazawa
ที่มีระยะทางรวม 6.1 กิโลเมตรโดยใช้เวลาเดินทาง
16 นาที ซึ่งจุดนี้คณะเราก็ได้คิวขึ้นรถช่วงบ่าย
4 โมงครึ่งเมื่อขึ้นรถทุกคนก็เข้าสู่ Sleep Mode กันทั้งคัน
รถ Shuttle Bus ไฟฟ้ามาส่งยังสถานี Ogizawa |
เสร็จสิ้นภาระกิจการเที่ยวชมเส้นทาง Japan Alps |
และแล้วภารกิจพิชิตเส้นทาง Japan Alps ที่เวลาผจญภัยบนเทือกเขาทาเทยาม่า ซึ่งใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงก็ลุล่วงลงด้วยดี พร้อมความประทับใจในความงามของธรรมชาติอย่างมิรู้ลืมคับ...
โปรโมชั่นสุด Hot เถ้าแก่ลืมบวกกำไร...1 ปีมีหนเดียว!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น