Meetawee Tour

ร่วมเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดพิเศษไปกับเรา ด้วยทีมงานคุณภาพของเราที่ใส่ใจทุกรายละเอียดตลอดการเดินทางเพื่อความสุขและความประทับใจของท่าน เชิญคุณร่วมเดินทางไปกับเราแล้วคุณจะรู้ว่า "ท่องเที่ยวสุขใจ...ต้องไปกับ มีทวี ทัวร์"

วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ฮอกไกโด ตอนที่ 2 : หมู่บ้านไอนุ

หมู่บ้านไอนุ ( Inu Village )

คณะเราเดินทางมาถึงสนามบินชิโตเซ่ ประมาณ 8 โมงเช้า (เวลาญี่ปุ่น) เวลาที่นี่เร็วกว่าบ้านเรา 2 ชั่วโมงครับ จากนั้นจุดหมายแรกที่คณะเราจะเดินทางไปเยือนก็คือ "หมู่บ้านไอนุ" ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที

(ออกจากสนามบินพร้อมความสดชื่นครับ)

(เมื่อขึ้นรสบัสถึงอาหรับพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย..อิอิ)

(บรรยากาศระหว่างทางไปหมู่บ้านไอนุ)

คณะเราพึ่งจะเคลิ้มหลับไม่ทันไร...รถบัสเราก็แล่นมาถึงหมู่บ้านไอนุกันแล้ว คณะเราไม่รอช้าลงมายืดเส้นยืดสายและเดินไปยังประตูทางเข้าหมู่บ้านไอนุ

(ประตูทางเข้าหมู่บ้านไอนุ)

(คุณแหม่ม ถ่ายคู่กับป้ายแผนที่แนะนำบ้านไอนุ...ตอนนี้เราอยู่ที่จุดนี้ค่ะ)

ทำไมต้องมาเยือนหมู่บ้านชาวไอนุ?

สำหรับท่านที่มาเยือนฮอกไกโด หมู่บ้านไอนุแห่งนี้ย่อมต้องอยู่ในโปรแกรมทัวร์อย่างแน่นอนเพราะว่าหมู่บ้านไอนุนี้ถือเป็นสถานที่จัดแสดงวัฒนธรรมที่สื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสถึงวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่นพื้นบ้านได้อย่างแท้จริง เพราะประวัติศาสตร์ของเมืองฮอกไกโดเองพึ่งมีไม่นานแค่ประมาณ 140 ปีก่อนหน้านี้ที่เหล่าโชกุนและซามูไรต่างอพยบกันขึ้นมาทางภาคเหนือหลังการปฎิรูปเมจิ

(ชาวไอนุ นับเป็นชาวอินเดียนแดงของญี่ปุ่น)

(ภาพนี้กลางเดือนพฤษภาคม คุณเกี๊ยกถ่ายพร้อมกับซากรุระที่แบ่งบาน)

ชาวไอนุนี้นับได้เป็นชาวอินเดียนแดงในประเทศญี่ปุ่นที่มีการนับถือเทพเจ้าและนับถือสัตว์ เช่น นกฮูกและหมีสีน้ำตาลเป็นเทพเจ้า ซึ่งในปัจจุบันเป็นสัวต์ทั้งสองเป็นสัตว์หายากและได้รับการอนุรักครุ้มครองถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทย์ที่ชาวไอนุให้ความนับถือ

(ว่าแล้ว...5 สาวงามก็ถ่ายรูปคู่กับนกฮูก สัตว์ที่ชาวไอนุนับถือ)

สัญลักษณ์อีกสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าชาวไอนุนั้นเป็นชนเผ่าอินเดียนแดง คือ ในหมู่บ้านจะมีเสา "โทเทม" เสาไม้ท่อนสูงใหญ่ที่มีหารแกะสลักตั้งตระหง่าอยู่ในหมู่บ้าน ที่คล้ายคลึงกับชนเผ่าอินเดียนแดงทั่วทุกมุมโลกที่ต่างมีเสา "โทเทม" เช่นเดียวกัน แสดงถึงวัฒนธรรมของชนเผ่าอินเดียนแดงในยุคนั้นที่มีการถ่ายทอดถึงกัน

(เสาโทเทม สัญลักษณ์ของ ชนเผ่าอินเดียนแดง ภาพจาก sgforums.com)

ชาวไอนุในปัจจุบัน

ชาวไอนุเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีฐานะยากจนมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยมีชาวไอนุเพียงร้อยละ 17 ที่จบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย โดยหมู่บ้านไอนุนี้ยังเป็นแหล่งรวบรวมวัฒนธรรมพื้นบ้านโบราณที่ไม่สามารถหาดูได้ในปัจจุบันหลายๆ ตัวอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูก การประมงหรือการถักสานทอผ้า ดังนั้นหากท่านต้องการดูวิถีชีวิตของชาวฮอกไกโดในอดีตแล้วล่ะก็รับรองว่าการมาเยือนหมู่บ้านไอนุนี้...ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

(แผนที่แสดงการตั้งถิ่นฐานของชาวไอนุ ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ของฮอกไกโด

ภาพจาก commons.wikimedia.org)

ด้วยความนิยมในการมาเยือนหมู่บ้านไอนุของชาวต่างประเทศที่มีเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี จึงทำให้หมู่บ้านไอนุในปัจจุบันได้รับการปรับปรุงจากหมู่บ้านแบบธรรมดาๆ ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ชนพื้นเมืองไอนุอันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จัดแสดงวิถีชีวิตของชาวไอนุในอดีตโดยมีการจัดแสดงทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร

(บ้านเรือนที่สร้างจำลองมาจากบ้านชาวไอนุในอดีต)

(บรรยากาศช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ซากุระกำลังเบ่งบาน)

วัฒนธรรมของชาวไอนุ

บริเวณหมู่บ้านไอนุ จะมีโซนจัดแสดงวัฒนธรรมรวมถึงวีถีชีวิตความเป็นอยู่ซึ่งจุดแรกที่คณะเราไปชมกัน คือ กระท่อมแสดงโชว์ของชาวไอนุ

(ว่าแล้วคณะของเราก็เข้าไปในกระท่อมทันที)

(ฉากแรก บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการล่าสัตว์)

(ฉากที่สอง แสดงการเลี้ยงเด็กโดยใช้เถาวัลย์และไม้มาสานเป็นเปลกล่อมเด็ก)

(ฉากที่สาม การเล่นดนตรี โดยใช้อุปกรณ์ที่ทำมาจากไม้และเชือก)

(ฉากที่สี่ การล้อมเต้นรำรอบกองไฟ ที่มีทำนองการร้องรำที่เป็นเอกลักษณ์)

(ถ่ายภาพกับนักแสดง...ด้านหลังทะเลสาปเดือนพฤษภาคมนำ้แข็งละลายหมดแล้ว)

(ภาพนี้ - เมื่อเดือนมกราคม...ผมยืนบนทะเลสาปที่ผิวน้ำกลายเป็นลานน้ำแข็ง)

พิพิธพันธ์หมู่บ้านไอนุ

เนื่องด้วยในปัจจุบัน ชาวไอนุแท้ๆที่ยังคงดำรชีพและยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมนั้นเหลืออยู่ไม่เยอะแล้ว ชาวไอนุแท้ๆส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่บริเวณฮอกไกโดตอนกลางและตอนล่าง ซึ่งทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของขนบ

ธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมที่นับวันค่อยๆจะเลือนหายไปจึงสนับสนุนให้สร้างพิพิธพันธ์ที่หมู่บ้านไอนุแห่งนี้ขึ้น เพื่อนำเสนอวัฒนธรรม รูปแบบวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวไอนุให้ทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้รู้จัก

(พิพิธพัณฑ์หมู่บ้านไอนุ)

(ภาพบริเวณประตูทางเข้าชมพิพิธพัณฑ์หมู่บ้านไอนุ)

ฉากแรก เป็นห้องจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องนุ่งห่มและกระบวนการถักทอเครื่องนุ่งห่มของชาวไอนุ โดยเส้นใยที่ได้มาจากวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น

(ภาพหุ่นหญิง-ชาย ชาวไอนุที่สวมชุดกิมมโนสไตล์พื้นบ้าน)

(ชุดกิมมโน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาวไอนุ)

(กระบวนการถักทอชุดกิมมโนและเครื่องนุ่งห่มของชาวไอนุ)

(เครื่องประดับศรีษะที่ออกเป็นทางการ ของชาวไอนุที่มีฐานะ)

(เครื่องประดับศรีษะของชาวบ้านธรรมดาทั่วไป)

ฉากที่สอง เป็นโซนจัดแสดงอาวุธที่ใช้ในการล่าสัตว์ของชาวไอนุ ที่ส่วนใหญ่ได้ทำมาจากไม้และโลหะ ซึ่งวิถีชีวิตของชาวไอนุต้องอาศัยการล่าสัตว์ป่า เช่น หมี กวาง นกและปลาแซลมอนมาเป็นอาหารหลัก

(ตู้จัดแสดงอาวุธของชาวไอนุ)

(ธนูอาวุธคู่ตัวของชาวไอนุ)

(หน้าไม้ของชาวไอนุ)

(ภาพชาวไอนุกำลังล่าหมี)

(ภาพชาวไอนุกำลังออกเรือเพื่อจับปลา)

ฉากที่สาม เป็นโซนจัดแสดงเครื่องดนตรีของชาวไอนุ ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ทำมาจากไม้และเส้นเชือก ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์

(ภาพชาวไอนุกำลังเป่าบรรเลงเพลง)

(เครื่องดนตรีประเภทเป่า รูปร่างหน้าตาแปลกๆของชาวไอนุ)

(ภาพชาวไอนุกำลังดีดพิณบรรเลงเพลง)

(พิณของชาวไอนุ หน้าตาคล้ายๆจะเข้บ้านเรา..)

ฉากที่สี่ เป็นโซนจัดแสดงเครื่องใช้ในครัวเรือนของชาวไอนุ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การประกอบอาหาร และภาชนะต่างๆ

(อุปกรณ์ในการตำข้าวของชาวไอนุ)

(สาวชาวไอนุกำลังตำข้าวกันอยู่)

(อุปกรณ์จาน-ชาม ของชาวไอนุ)

(ปลาแซลมอน-ซุปมิโซะ-ข้าวสวย-ถั่วนัทโต้ อาหารหลักของชาวไอนุ)

(ภาพถ่ายช่วงเดือนมกราคม - ชาวไอนุนำปลาแซลมอนมาตากเรียงรายบนราว)

(ปลาแซลมอนที่ถูกตากแห้ง - เป็นอาหารหลักของชาวไอนุในช่วงฤดูหนาว)

ฉากที่ห้า เป็นโซนจัดแสดงบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของชาวไอนุ วิธีการสร้างบ้าน และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน

(บ้านของชาวไอนุ ที่มีหลังคาสูงเนื่องจากชาวไอนุมีการทำอาหารทานกันในบ้าน)

(บ้านของชาวไอนุ ที่สร้างมาจากต้นกกสูงในท้องถิ่น)

(เมื่อนำใบไม้และต้นกกมาตากแห้งแล้วก็นำมาติดกับตัวบ้านเป็นส่วนของผนังและหลังคา)

(ถังนี้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ชาวไอนุต้องนำวัวและสัตว์เลี้ยงเป็นฝูงไปแลกมา

ในอดีตใครมีถือว่าเป็นผู้มีฐานะเลยทีเดียว)

(อันนี้เป็นกระเป๋าของชาวไอนุ ดีไซน์แม่แบบของกระเป๋า BAO BAO )

ฉากที่หก เป็นโซนจัดแสดงเรื่องวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมท้องถิ่นของชาวไอนุ

(มุมนี้เป็นฉากจำลองวิถีชีวิตของชาวไอนุ )

(ภาพนี้เป็นการประกอบอาหารในบ้านของชาวไอนุ )

(ภาพนี้เป็นสาวชาวไอนุที่มีการสักสีดำคล้ายหนวดที่บริเวณรอบปาก โดยตามธรรมเนียมของชาวไอนุเมื่อหญิงสาวเข้าสู่วัยรุ่นจะเริ่มมีการสัก ซึ่งหากสาวคนใดไม่สักก็จะไม่ได้การยอมรับจากสังคม)

(ภาพนี้เป็นวีถีการเลี้ยงเด็กของสตรีของชาวไอนุ )

(พิธีการบวงสรวงเทพเจ้าของชาวไอนุ โดยชาวไอนุมีความเชื่อเรื่องผีสางเทวดา )

(นกฮูก ถือเป็นสัตว์ศักด์สิทธิ์ที่ชาวไอนุให้ความนับถือ เหมือนเป็นเทพเจ้า )

หลังจากที่เยี่ยมชมพิพิธพัณฑ์เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับไปยังลานจอดรถเพื่อนั่งรถไปทานข้าวเที่ยงกัน ระหว่างนั้นเลยถือโอกาสเก็บภาพบริเวณหมู่บ้านมาฝากกันครับ...

(ด้านข้างพิพิธพัณฑ์จะมีกรงหมีและน้องหมาชิบะน่ารักให้ได้ชมกัน )

(น้องหมาชิบะสีขาวตัวอ้วน... )

(น้องหมาตัวนี้หน้าตาพึ่งตื่นนอน... )

(ส่วนเจ้าตัวนี้ขี้เล่น..ผมลูบหัวแล้วไม่กัดผมนะ )

(ร้านขายของที่ระลึกบริเวณทางออก )

(คุณลุงกำลังแกะสลักอย่างขมักเขม้น )

(ผลงานที่ได้ครับ.... )

(ปลาแซลมอนตากแห้งก็มีจำหน่ายที่นี่เช่นกันคับ )

เอาละครับจบโปรแกรมหมู่บ้านไอนุปนะมาณ 11 โมงกว่าครับ ต่อจากนี้คณะเราจะเดินทางไปประมาณ 20 นาทีเพื่อทานข้าวเที่ยงกันก่อนคับ ตามไปดูกันครับมื้อแรกของคณะเราวันนี้ทานอะไรกัน...หิวแล้วววววค้าบ

(ไม่กี่อึดใจก็เดินทางมาถึงร้านอาหารเที่ยง ป้ายปูดูเด่นเป็นสง่า )

(บนหลังคาร้านมีหุ่นหมีนั่งอยู่ ลูกค้าหันมาถามมื้อเที่ยงทานปูหรือทานหมีค่ะ...?? )

(ทางเข้าร้านอาหารเป็นตลาดสดขายอาหารทะเลสดๆ...แม่ค้ากำลังแร่ส่วนโอโทโร่อยู่ )

(ปูอลาสก้าเป็นๆก็มีขายเหมือนกันนะค้าบ... )

(มาแล้วค้าบ...มื้อแรกของคณะเราที่ฮอกไกโด )

(เป็นเมนูแซลมอลหม้อไฟทานกับข้าวสวยร้อนๆ )

(แซลมอนเนื้อแน่นชิ้นโตต้มรวมกับผักและเต้าหู้...และที่ขาดไม่ได้น้ำจิ้มสุกี้ import มาจากไทยคับ ขณะลูกค้าเริ่มลงมือทานกันผมก็ขอตัวไปทานเหมือนกัน)

(ส่วนผมนั่งทานอีกโซนหนึ่ง เมนูผมเป็นคัสสึด้ง ข้าวหน้าหมูทอดราดไข่คับ )

(โชคดีได้เจอคุณตัน ที่พาเอเจ้นท์มาเที่ยวที่ฮอกไกโดและมาทานที่

ร้านนี้พอดีเลยถือโอกาสถ่ายภาพกับท่านเจ้าสัวสักภาพนึงคับ ... )

หลังจากที่ทานอิ่มกันเป็นที่เรียบร้อยทั้งผมและลูกค้าก็พร้อมเดินทางกันต่อ โดยสถานที่เที่ยวต่อไปจะเป็นที่ "หุบผานรก หรือ จิโกกุดานิ" จะน่าเที่ยวและน่าสนใจเพียงใดติดตามรับชมกันต่อได้ในตอนหน้าครับ